วันศุกร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2563

2 ตัวเลขที่ควรรู้ก่อนสร้างหนี้ก้อนใหม่




ในยุคดอกเบี้ยถูกแบบนี้เป็นโอกาสของลูกหนี้ที่จ่ายดอกเบี้ยลดลง แต่จะกู้ไปทำอะไรก็ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของแต่ละคน ช่วงที่ผ่านมามี Inbox ของแฟนเพจสอบถามเรื่องการกู้เงิน แอดมินของสรุปและแชร์มุมมองต่างๆไว้ในบทความนี้ เผื่อคนอื่นใช้เป็นแนวทางการตัดสินใจของตัวเองได้นะจ๊ะ

ตัวอย่าง เป้าหมายการกู้เงินของแต่ละคน...

=> ตอนนี้ซื้อรถยนต์ดีมั้ย : ควรซ้อมออมเงินเท่าค่างวดรถให้เคยชินกับการเป็นหนี้ก่อนซื้อรถจริง ถ้าทำได้ 6 เดือนแล้วรอด แปลว่าผ่อนรถอีก 4-5 ปีน่าจะรอดจ้า ส่วนเงินที่เก็บสะสมไว้ก็จะกลายเป็นเงินดาวน์รถ ทำให้ผ่อนรายเดือนลดลงและเสียดอกเบี้ยน้อยลงด้วยจ้า

=> มีคนมาขายบ้านให้ต่ำกว่าราคาประเมิน เราควรรับซื้อบ้านหลังนี้ไว้หรือไม่ : ควรสำรวจหนี้เก่าของตัวเองก่อนว่ามีอยู่แล้วเท่าไหร่ แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะกู้เพิ่มหรือไม่

=> หุ้นตก ควรกู้เงินมาซื้อหุ้นดีมั้ย ควรถามตัวเองว่าเราจะไหวมั้ย ถ้าหุ้นที่เราซื้อยังไม่ได้กำไรในระยะสั้น แต่เราจะต้องจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ทุกเดือน


เพดานหนี้ของเราเท่าไหร่?


ก่อนตัดสินใจกู้เงินควรคำนวณว่าความสามารถในการหารายได้ของเราว่าสามารถสร้างหนี้ได้สูงสุดเท่าไหร่ เพื่อจะได้ไม่สร้างภาระหนี้สินล้นพ้นตัว คำนวณได้จาก 2 สูตรนี้จ้า

----------------------------------------------------------------
สูตรที่ 1 สัดส่วนหนี้สินต่อทรัพย์สิน

(หนี้สินรวม / สินทรัพย์รวม) x 100 = ไม่ควรเกิน 50%
----------------------------------------------------------------

ตัวอย่าง เราเหลือหนี้บ้าน หนี้รถยนต์ รวม 3,000,000 บาท สินทรัพย์รวม (เงินฝาก กองทุน หุ้น ทองคำ ที่ดิน ฯลฯ) รวม 5,000,000 บาท

การคำนวณ (3,000,000 / 5,000,000) x 100 = 60%

แปลว่า เรามีหนี้สูงเกินไป ควรเพิ่มทรัพย์สินหรือขายทรัพย์สินเพื่อทำหนี้ให้ลดลง หากจะต้องกู้เงินเพิ่มจะต้องระมัดระวังเพราะหนี้สินเข้าเขตอันตราย



-----------------------------------------------------------------------
สูตรที่ 2 ความสามารถในการจ่ายหนี้

(ผ่อนรายเดือน / รายได้รวม) x 100 = ควรน้อยกว่า 35 - 40%
-----------------------------------------------------------------------

ตัวอย่าง เรามีรายได้เดือนละ 30,000 บาท ผ่อนบ้านและรถยนต์เดือนละ 19,000 บาท

การคำนวณ (19,000/30,000) x 100 = 63%

แปลว่า เรามีภาระผ่อนรายเดือนมากเกินไป เหลือเงินออมและใช้จ่ายส่วนตัวเดือนละ 11,000 บาท อาจจะทำให้ชักหน้าไม่ถึงหลัง ควรหารายได้เพิ่ม หาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยถูกเพื่อรีไฟแนนซ์บ้าน



แนวทางการตัดสินใจ


จาก 2 ตัวอย่างการคำนวณข้างบน ถ้าใครมีตัวเลขออกมาแบบนี้ แปลว่าหนี้ของเราเกินมาตรฐานที่ควรจะเป็นแล้ว รู้เลยว่าทำไมช่วงนี้ใช้จ่ายติดๆขัดๆ เพราะต้องนำรายได้ส่วนใหญ่ไปจ่ายหนี้เลยไม่ค่อยมีใช้จ่ายส่วนตัว ถ้าต้องการหลุดพ้นจากวงจรหนี้แบบงูกินหาง เราควรจัดการหนี้เก่าให้เบาลงก่อน แล้วค่อยก่อหนี้ก้อนใหม่

แต่ถ้ายังไม่เคยมีหนี้สินเลย หรือมีอยู่บางส่วนก็จะรู้ว่าแต่ละเดือนเราจ่ายหนี้ไหวที่เท่าไหร่ เพื่อรักษาสภาพคล่องในแต่ละเดือนและมีเงินออมเพื่อเป้าหมายการเงินทั้งตอนนี้และในอนาคต

แม้ว่าการไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ แต่ถ้าจำเป็นต้องก่อหนี้จริงๆแล้วควรรู้ว่าความสามารถในการหารายได้ของเรานั้นควรมีเพดานหนี้สูงเท่าไหร่จะได้ไม่ปวดหัวเร่งหาเงินมาจ่ายหนี้นะจ๊ะ

แจกฟรี‼️ เอกสารเช็คชีพจรการเงินของตัวเอง ทำให้รู้ว่าตอนนี้สุขภาพการเงินเป็นอย่างไร มีจุดอ่อนและจุดแข็งอะไรบ้าง ควรมีหนี้เท่าไหร่ https://bit.ly/33RPYYp





วันศุกร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2563

สร้างรายได้เสริม เริ่มต้นง่ายๆ



ตอนนี้เราอยู่ในช่วงที่ยากลำบากเพราะผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้เราจำเป็นต้องอยู่บ้านจะได้ไม่ไปเพิ่มยอดผู้ติดเชื้อ ผลที่เกิดขึ้นทำให้หลายกิจการต้องปิดตัวลง ถูกเลิกจ้างหรือได้รับเงินเดือนน้อยลง เรื่องสำคัญที่เราได้เรียนรู้จากวิกฤตครั้งนี้ คือ เงินฉุกเฉินและควรมีรายได้หลายทาง

เงินฉุกเฉิน

เราควรมีเก็บไว้ 3 - 6 เท่าของค่าใช้จ่าย หากตกงานไปจะได้มีเงินส่วนนี้มาใช้จ่าย เช่น เรามีรายจ่ายเดือนละ 10,000 บาท เราควรมีเงินฉุกเฉินเก็บไว้ประมาณ 30,000 - 60,000 บาท ควรเก็บไว้ที่ความเสี่ยงต่ำ เพื่อให้เงินต้นปลอดภัยแล้วถอนออกมาใช้ง่ายๆ เช่น ออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง กองทุนรวมตลาดเงิน


สร้างรายได้หลายทาง

เราเห็นบางอาชีพที่ดูมั่นคงมากๆ อย่างเช่น ธุรกิจสนามบิน (ปี 2019 จ่ายโบนัสให้พนักงานมากกว่า 7 เดือน) ธุรกิจสายการบิน ธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว มาถึงวันนี้เดือดร้อนสาหัสเพราะไม่มีนักท่องเที่ยว ไม่มีผู้โดยสาร ขาดรายได้อาจจะต้องปรับลดพนักงาน หรือได้รับเงินเดือนไม่ครบ

นั่นแปลว่า เราควรมีรายได้หลายทางเพื่อเป็นทางเลือกสำรองให้ชีวิต หากรายได้หลักหายไปหรือลดลง เราจะได้มีรายได้เสริมเข้ามาชดเชยได้

อีกวิธีของการสร้างรายได้เสริมจากพื้นที่ว่างบริเวณบ้านหรือย่านชุมชน เช่น ร้านขายของ หอพัก ตลาด ย่านออฟฟิศ ฯลฯ ลองนำตู้เหล่านี้ไปตั้งไว้เรียกเงินเข้ากระเป๋าของเราเป็นทางเลือกที่น่าสนใจนะคะ


แนวทางสร้างรายได้จากตู้อัตโนมัติ


  • ความต้องการ
    • เริ่มจากดูก่อนว่าบริเวณที่เราอยู่นี้ต้องการอะไร เช่น หอพักหรือร้านค้าที่อยู่ใกล้สถานศึกษา เราอาจจะเป็นตู้เติมเงินกะปุก หากมีพื้นที่มากหน่อยก็เพิ่มตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติให้นักศึกษาลงมากดของกินเองได้
  • ลงทุนตามงบ
    • เราอาจจะเริ่มลงทุนเล็กๆไปก่อนแล้วให้กำไรที่ได้มาซื้อตู้เพิ่ม เช่น เราต้องการตู้เติมเงินกะปุกกับตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ แต่เงินของเรามีไม่พอแล้วไม่รู้ว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างไร เราอาจจะลงตู้เติมเงินก่อน พอถึงจุดคุ้มทุนแล้วค่อยแบ่งกำไรเก็บไว้ไปลงทุนตู้จำหน่ายสินค้าต่อไป 
  • การบริการหลังการขาย
    • เรื่องนี้สำคัญมากๆ หากลูกค้ามาใช้บริการหน้าตู้แล้วเกิดปัญหา สามารถแจ้งในระบบออนไลน์ ติดตามแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทันที ถ้าปัญหาจบเร็ว ลูกค้าจะประทับใจ ส่วนเราที่เป็นเจ้าของตู้จะได้สบายใจด้วย เรื่องนี้เราอาจจะสอบถามกับตัวแทนหรือคุยกับคนที่เคยใช้บริการมาก่อนก็ได้จ้า


ตู้เติมเงินสร้างรายได้เสริม


ถ้าสนใจตู้แบบไหน สแกน QR Code หรือคลิกใต้ภาพเข้าไปดูรายละเอียดและลงชื่อเพื่อปรึกษาว่าพื้นที่ของเราเหมาะที่จะวางตู้หรือไม่ ถ้าเป็นพื้นที่ดีก็จะเริ่มว่าควรทำอย่างไร แต่ถ้าพื้นที่ยังไม่เหมาะที่จะวางตู้ เราจะได้ไปมองหารายได้ทางอื่นจ้า










ตัวอย่างรายได้

รายได้ขึ้นอยู่กับทำเลว่าตู้ตั้งอยู่ที่ไหน ถ้าอยู่ในแหล่งชุมชนก็จะมีโอกาสสร้างรายได้มากกว่า



ช่องทางการแก้ปัญหาแบบออนไลน์







ขอให้ทุกคนโชคดีมีรายได้เสริมเพิ่มเงินออมให้ตัวเองนะจ๊ะ


















วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

กว่าจะมาเป็น 5 บทความ "พระมหากษัตริย์นักออม เดอะซีรีย์"




พระมหากษัตริย์นักออม.jpg


ที่มาของบทความ “พระมหากษัตริย์นักออม เดอะซีรีย์” ทั้ง 5 เรื่องนี้ เราอยากเขียนเก็บไว้เป็นไดอารี่เส้นทางการเขียนว่ากว่าจะเขียนเสร็จต้องผ่านอะไรมาบ้าง แต่สิ่งที่เราทำมาทั้งหมดนี้ก็ยังน้อยกว่าเรื่องราวที่ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงทำให้ปวงชนชาวไทย 

เราอยากเป็นส่วนหนึ่งในหน้าประวัติศาตร์ที่เก็บรวบรวมเรื่องราวและแนวคิดของพระองค์ท่านไว้ในรูปแบบออนไลน์ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้มีข้อมูลเพื่อค้นคว้าต่อไป



เรื่องนี้มีจุดเริ่มต้นในปี 2558


วันที่ 31 ตุลาคมของทุกปีเป็นวันออมแห่งชาติที่ส่งเสริมให้คนไทยมีนิสัยรักการออม ให้ความสำคัญและประโยชน์ของการออมเงิน ในช่วงต้นเดือนตุลาคม เราคิดจะเขียนบทความที่เป็นแรงบันดาลใจเกี่ยวกับการออมที่คนอ่านแล้วเห็นภาพชัด เข้าใจง่ายและที่สำคัญทำได้จริง นั่นซิจะหาใครดีล่ะ

ติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก!! ระหว่างที่กำลังหาคนสร้างแรงบันดาลใจ เราก็เปิด FB สไลด์หน้าจอไปเรื่อยๆ ก็สังเกตเห็นว่าเพื่อนหลายๆคนชอบแชร์คำคมหรือแนวคิดของคนที่มีชื่อเสียง เช่น สตีฟจ๊อบ , วอร์เรนบัฟเฟตต์ , ลีกาซิง , มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก , แจ๊กหม่า เราดูไปเรื่อยๆก็เกิดคำถามว่า


ทำไมไม่เห็นมีคนไทยบ้างเลย?


แล้วอยู่ดีๆก็มีใบหน้าของบุคคลหนึ่งแว๊บเข้ามาในหัวเรา ปิ้ง!! ภาพนั้นคือ “ในหลวง รัชกาลที่ 9” จำได้ว่าเคยอ่านเรื่องราวของพระองค์ท่านเกี่ยวกับหลอดยาสีพระทนต์ที่แบนเรียบ ฉลองพระบาทที่ซ่อมแล้วซ่อมอีก ใช่เลย!! นี่แหละแบบอย่างการออมของคนไทย



เป้าหมายเพื่อ…..

เราต้องการเก็บข้อมูลแนวคิดและวิธีการปฎิบัติของพระองค์ท่านจากที่ต่างๆไว้ในที่เดียวกัน ในรูปแบบออนไลน์ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เข้ามาศึกษาค้นคว้า นำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันของตัวเองและแสดงความรักด้วยการ “ลงมือทำ” ตามคำสอนของพระองค์ท่าน




รวบรวมข้อมูลครั้งแรก

ส่วนตัวมีความเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า สิ่งที่ทำไปในอดีตนั้นส่งผลถึงปัจจุบันและอนาคต การที่พระองค์มีแนวคิดการใช้เงินที่ประหยัดและออมเงิน อย่างที่พวกเราเห็นทุกวันนี้ มาจากคำสอนของสมเด็จย่า ทำให้เรารู้ว่าควรหาข้อมูลอะไรบ้าง วิธีเริ่มหาข้อมูลด้วยวิธีที่ง่ายที่สุด คือ google  

เปิดไปหลายสิบเว็บ อ่านไปเรื่อยๆรู้สึกว่ามีแต่เรื่องซ้ำๆกัน อืมมม มันต้องมีมากกวา่นี้ซิ เราก็เลยไปหาหนังสืออ่านเพิ่มเติมที่ “หอสมุดแห่งชาติ” โชคร้ายที่หอสมุดยังต่อเติมไม่เสร็จ กว่าจะใช้งานได้ทั้งหมดก็กลางปี 2560 มีหนังสือให้อ่านน้อยกว่าที่คิดไว้ ทำให้เราหาข้อมูลได้ไม่เต็มที่ 

เปิดหนังสืออ่านไปหลายสิบเล่ม ได้ข้อมูลใหม่มาบ้าง พอรวบรวมข้อมูลได้มากพอแล้วก็เริ่มเขียน จนออกมาเป็นบทความ “พระมหากษัตริย์นักออมเงิน” 



พระมหากษัตริย์นักออมเงิน.jpg
ลิงค์บทความแรก http://www.aommoney.com/?p=14069



เราแบ่งการเขียนออกเป็น 2 ส่วน โดยเริ่มจากส่วนแรกจะข้อมูลที่ไปค้นคว้ามา มีทั้งแนวคิดและสิ่งที่พระองค์ทรงปฏิบัติ ส่วนที่สองจะเป็นวิธีการนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน แบ่งออกเป็น 5 เรื่อง คือ

เรื่องที่ 1  สมเด็จย่าทรงสอนวิธีจัดการเงิน
เรื่องที่ 2 เก็บออมเงินเพื่อซื้อของใช้ส่วนพระองค์
เรื่องที่ 3 การสร้างรายได้และการให้
เรื่องที่ 4 การประหยัด
เรื่องที่ 5 เงินค่าไถ่บ้านเมืองของรัชกาลที่ 3 (เงินถุงแดง)

เราเขียนบทความในเว็บออมมันนี่ http://www.aommoney.com/?p=14069 เสร็จแล้วก็โพสต์ไว้ที่เพจอภินิหารเงินออมใน https://www.facebook.com/miracleofsaving/ ในวันออมแห่งชาติปี 2558




การบริจาคสเต็มเซลล์ในปี 2559

 หลายปีที่แล้วเราเคยบริจาคเลือดและสมัครเป็นผู้บริจาคสเต็มเซลล์ซึ่งเป็น เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต (Stem Cell)ที่จะกลายเป็นเม็ดโลหิตแดง เม็ดโลหิตขาว และเกล็ดโลหิตต่อไป หาคนที่มีสเต็มเซลล์ตรงกันยากมาก แม้แต่ครอบครัวเดียวกันก็ยังไม่ตรงกัน ถ้าเจอนี่เรียกว่าคู่แท้กันเลยทีเดียว

ช่วงต้นปี 59 มีเจ้าหน้าที่ของสภากาชาดก็โทรกลับมาถามว่ามีผู้ป่วยชาวต่างชาติท่านหนึ่งเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉีบบพลัน ต้องการขอรับบริจาคสเต็มเซลล์จากเรา หมอไปค้นหามาหลายประเทศแล้วก็มาเจอว่าใกล้เคียงกับเรา เขาถามว่าตอนนี้ยังพร้อมที่จะบริจาคหรือไม่ แล้วเจ้าหน้าที่ก็เล่าวิธีและขั้นตอนการบริจาค เพื่อให้เราตัดสินใจ


---------------------------------------------------------------------------------------
มีบริจาค 3 วิธีคือ

  1. เจาะเส้นเลือดดำที่แขน
  2. การบริจาคไขกระดูก วิธีนี้เสียเลือดเยอะและใช้เวลาพักฟื้นนาน
  3. เจาะเส้นเลือดดำที่บริเวณคอ

ก่อนที่จะเริ่มบริจาคก็จะต้องเก็บเลือดเพิ่มว่าเรากับคนไข้ตรงกันเกือบ 100% หรือไม่ แล้วไปตรวจสุขภาพชุดใหญ่ที่ รพ.จุฬา เพื่อให้แพทย์ตรวจและรับรองว่าสุขภาพของเราแข็งแรงพอที่จะให้บริจาคได้ ก่อนวันบริจาค 5 วันจะต้องฉีดยากระตุ้นให้สเต็มเซลล์ออกมาจากไขกระดูก

วิธีการเก็บสเต็มเซลล์เหมือนการฟอกไต โดยเอาเลือดออกจากร่างกายแล้วเข้าเครื่องสกัดสเต็มเซลล์ จากนั้นเลือดที่เหลือก็จะกลับเข้าสู่ร่างกาย วนแบบนี้จนกว่าจะได้ครบตามปริมาณที่ต้องการ 

ดังนั้น ก่อนวันบริจาคจะต้องมานอนพักในห้องปลอดเชื้อที่โรงพยาบาล 1 คืน แล้วตอนเช้าก็จะมีรถตู้ขับไปส่งที่สภากาชาด ทั้งหมดนี้จะมีเจ้าหน้าที่จากสภากาชาดมาช่วยดูแลให้ เราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย

 ---------------------------------------------------------------------------------------


ฟังจบแล้วอึ้ง!! สมองเบลอไปสักพัก มันต้องขนาดนี้เลยหรอเนี่ย เจ็บตัวสุดๆ แล้วปลายสายก็พูดกลับมาว่า “เรายังจะสมัครใจบริจาคอยู่อีกหรือไม่” เอาวะ มาถึงจุดนี้ล่ะ ตั้งใจจะบริจาคแล้วก็ต้องไปให้สุดทาง สูดลมหายใจลึกๆแล้วตอบกลับไปว่า “ตกลงค่ะ”

วันที่เราเข้าไปที่สภากาชาดเพื่อเข้าไปเก็บตัวอย่างเลือดเพิ่ม เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าหลังจากการบริจาคครั้งนี้ เราจะได้รับประกันชีวิต ตรวจสุขภาพฟรี 10 ปี และได้รับเข็มสภากาชาดจากพระหัตถ์ของพระเทพฯ จุดพีคอยู่ตรงนี้แหละ ได้เข้าเฝ้าพระเทพฯ ด้วยอ่ะ มันตื่นเต้นและดีใจมากๆ แล้วก็คิดว่าจะต้องมีอะไรบางอย่างไปถวายท่านให้ได้ 


วันที่ 13 ตุลาคม 2559

มีแถลงการรณ์จากสำนักพระราชวังว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต เป็นวันที่เศร้าจนเราทำอะไรไม่ถูก แต่ทุกอย่างมันต้องทำต่อไป ตอนนั้นมีเรื่องราวของพระองค์ท่านมากมายถูกแชร์ทางสื่อออนไลน์ รวมทั้งบทความ “พระมหากษัตริย์นักออมเงิน” ด้วย เราจึงคิดที่จะทำบทความนี้ให้เป็นรูปเล่มเพื่อถวายพระเทพฯ




รวบรวมและเรียบเรียงข้อมูลครั้งที่สอง

เรามีเวลาเก็บรวบรวมข้อมูลและเรียบเรียงให้เสร็จประมาณ 1 เดือน

ตัวอย่างแหล่งข้อมูล

  1. อ่านหนังสือเจ้านายเล็กๆยุวกษัตริย์
  2. หาข้อมูลที่หอสมุดแห่งชาติ ครั้งนี้มีการจัดมุมพิเศษที่เป็นหนังสือเกี่ยวกับ ในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยเฉพาะ ทำให้เราหาหนังสืออ่านง่ายขึ้น ใช้เวลาครึ่งวัน เปิดอ่านอยู่หลายเล่มได้ข้อมูลมาบ้าง แต่ยังไม่จุใจ
  3. ไปหอสมุดกลางที่จุฬา เจอข้อมูลอะไรน่าสนใจมาเยอะมาก
  4. ดูคลิปต่างๆในยูทูป เช่น ลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=Sl2Bf4gjZFw&index=6&list=PL9WEcJOIXshGTpPpvAVv1PNlPly1Si1h7


แผ่นดินวัยเยาว์.jpg


หลังจากรวบรวมข้อมูลมาได้พอสมควรแล้วเราก็นำมาเรียบเรียงใหม่ ตามโครงเรื่องเดิม เราทำเป็นเล่มได้ประมาณ 40 หน้านิดๆปริ๊นใส่กระดาษ A4 เตรียมนำไปเข้าเล่ม




ยกเลิกการบริจาคสเต็มเซลล์

ก่อนวันบริจาคประมาณ 1 สัปดาห์เจ้าหน้าที่สภากาชาดโทรมาบอกเราว่า ตอนนี้คนไข้อาการทรุดหนัก ร่างกายไม่แข็งแรงพอที่จะรับการรักษาด้วยสเต็มเซลล์ได้ ในใจเราก็สวดมนต์ให้คนไข้ไม่เจ็บปวดมากไปกว่านี้ เมื่อทุกอย่างถูกยกเลิก เราก็อดเข้าเฝ้าพระเทพฯไปด้วย เฮ้อ...เศร้าเลย สุดท้ายต้นฉบับที่ทำไว้ก็เป็นอันยุติ เก็บเข้ากรุไป




ถูกก๊อปปี้ผลงาน

วันหนึ่งเราเปิด Facebook เปิดหน้าฟีดอ่านไปเรื่อยๆก็ต้องมาสะดุดกับโพสต์รูปภาพของบริษัทขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง มันรู้สึกคุ้นๆอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งอ่านก็ยิ่งใช่ มันเหมือนจริงๆ แล้วเราก็ลองเปิดบทความ "พระมหากษัตริย์นักออมเงิน" ก็ถึงบางอ้อ นี่มันข้อความที่เราเขียนไว้เป๊ะเลย

เราเขียนบทความฟรี แต่คนที่ก๊อปปี้งานไปใช้เขาได้เงิน ทำไมเขาหากินกันง่ายจัง ตอนนั้นก็สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วแคปหน้าจอเก็บหลักฐานไว้ เราไม่รู้จะทำยังไงเพราะไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ ก็เลยโพสต์ระบายไว้ใน Facebook ส่วนตัว

ปรากฎว่าพี่ที่รู้จักในบริษัทแห่งนั้นมาเห็น เขาก็รีบโทรมาเล่าเรื่องโพสต์เจ้าปัญหานั้นให้ฟัง แล้วถามว่าจะให้เขาจัดการยังไงบ้าง เป้าหมายของเราต้องการเตือนว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นไม่ถูกต้อง ไม่ต้องการเรียกร้องค่าปรับอะไรทั้งนั้น เพราะเราตั้งใจเขียนเรื่องนี้ฟรี ไม่คิดจะหารายได้

สรุปว่าเรื่องนี้พี่เขาเครียให้จบแล้ว เรารับคำขอโทษเรียบร้อยแล้ว

แต่ว่า...มันยังมีต่อ

ครั้งนี้มีคนก๊อปปี้งานเขียนของเราประมาณ 5 เรื่องไปทำรายการทีวี เราเขียนงานฟรีมาแทบตาย แต่สุดท้ายคนอื่นได้ผลงาน ได้เงินไปใช้ซะงั้น มันก็ปรี๊ดซิจ๊ะ แล้วบทความ "พระมหากษัตริย์นักออมเงิน" ก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่ถูกก๊อบด้วย ตอนนี้ก็รออยู่ว่าจะหาทางออกยังไงต่อไป



ก้มหน้าแล้วเขียนงานต่อไป

ถูกก๊อบงานบ่อยๆแบบนี้มันก็มีท้อใจบ้างนะ ว่าทำไมคนอื่นเขาหากินกันง่ายจัง เอาผลงานเราไปหารายได้ให้ตัวเอง แต่ก็มานั่งคิดอีกมุมนึงว่าแสดงว่าของเราดีก็เลยถูกก๊อบ ตอนนั้นเราระบายความโกรธด้วยการเข้าฟิตเนสออกกำลังกาย คงหนักมากไปหน่อยก็เลยปวดแขน ปวดขาไปหมด จากนั้นก็ไปกินของอร่อยๆให้สบายใจ นอนพักอีกสักคืนค่อยกลับมาคิดว่าจะทำไงดี

ตื่นเช้ามาบรรลุเลย สมองมันคิดให้ว่าเราไม่ควรเลิกงานเขียนเพราะคนมักง่ายแค่ไม่กี่คนที่มาก๊อบงานของเรา แต่เราควรเขียนเพื่อคนอ่านอีกหลายแสนคนน่าจะดีกว่า เราจะไม่เสียเวลากับคนก๊อบงานอีกต่อไป จะตั้งใจเขียนให้มันดีขึ้นเรื่อยๆ ใช้เวลาไปหาอะไรใหม่ๆสนุกๆเขียนดีกว่า

เราทำภาพนี้แปะไว้ที่เพจอภินิหารเงินออม






เผยแพร่ออนไลน์

เมื่อตั้งใจเขียนแล้วก็ต้องไปให้สุดทาง เราเป็นบล็อกเกอร์เขียนงานออนไลน์อยู่แล้ว ก็ใช้ช่องทางที่เราถนัดนี่แหละในการเผยแพร่ผลงานเป็นรูปแบบออนไลน์ เพื่อให้คนที่สนใจเข้ามาอ่านได้ฟรี แล้วรู้วิธีว่าควรนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันอย่างไร ส่วนตัวคิดว่าแม้ว่าเราจะตายไปแล้ว แต่ผลงานออนไลน์นี้ยังคงอยู่ตลอดไป


บทความทั้งหมดอยู่ลิงค์ข้างล่างนี้แล้วนะจ๊ะ


สมเด็จย่าทรงสอนวิธีจัดการเงิน.jpg
ลิงค์บทความ http://www.aommoney.com/?p=22623


ทรงเก็บออมเงินเพื่อซื้อของใช้ส่วนพระองค์.jpg
ลิงค์บทความ http://www.aommoney.com/?p=22670


การสร้างรายได้และการให้.jpg
ลิงค์บทความ http://www.aommoney.com/?p=22778

การประหยัด.jpg
ลิงค์บทความ http://www.aommoney.com/?p=22802


เงินถุงแดงไถ่บ้านเมือง.jpg
ลิงค์บทความ http://www.aommoney.com/?p=22820




ผลงาน 5 เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เราภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต ที่นักเขียนตัวเล็กๆคนหนึ่งทำตอบแทนพระองค์ท่านได้ โดยการนำแนวคิดและคำสอนของพระองค์ท่าน มาเรียบเรียงและเผยแพร่ในรูปแบบออนไลน์ เพื่อให้ลูกหลานของเราได้รับแบบอย่างที่ดีและจะได้เดินตามรอยเท้าพ่อตลอดไป 


แล้วไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราก็จะเขียนงานของเราต่อไป ^^




แอดมินเพจอภินิหารเงินออม







วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ถ่ายทอดมรดกทางความคิดด้วยตัวหนังสือ





"เริ่มจากรักการอ่านจนกลายเป็นคนที่หลงใหลในการเขียน"

อยากช่วยสร้างฝันของคนที่อยากมีหนังสือเป็นของตนเองให้เป็นจริง 
รวมถึงผู้ที่อยากถ่ายทอดประสบการณ์ของตนเองเพื่อให้แนวคิดดีๆอยู่ในสังคมต่อไป 
เช่น คนใกล้เกษียณที่อยากถ่ายทอดแนวความคิดที่ทรงคุณค่าให้คนรุ่นหลาน 
ผู้บริหารที่ต้องการนำประสบการณ์ที่สั่งสมมาถ่ายทอดเป็นบทเรียนชีวิตให้คนอื่นต่อไป


ตัวอย่างผลงานเขียนบางส่วน














รวมผลงานทั้งหมด http://pajareep.blogspot.com/2014/04/blog-post.html


หากใครสนใจสามารถติดต่อได้โดยตรงที่

Tel. 08-96793398
E-Mail : pajaree.pan24@gmail.com
Line ID : pajaree.pan







วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2557

[แนะนำ]โต๊ะจีนกับภาชนะให้เช่า ตรา ซุปเปอร์แวร์

ดิฉันมีอุปกรณ์โต๊ะจีนขายและให้เช่าที่ให้บริการภายใน จังหวัดลพบุรี
ซึ่งให้บริการแก่บุคคลทั่วไปและร้านอาหารที่ต้องการจัดงานนอกสถานที่ มีให้บริการ ดังนี้

  1. ให้เช่าอุปกรณ์โต๊ะจีนกับผู้ที่รับจ้างทำอาหาร
  2. ขายอุปกรณ์โต๊ะจีนกับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นทำธุรกิจจัดงาน เช่น เก้าอี้ ภาชนะโต๊ะจีนที่มีคุณภาพตราศรีไทยซุปเปอร์แวร์
  3. ให้เช่าจัดงานแก่หน่วยงานราชการและบุคคลทั่วไป
  4. ให้เช่าเก้าอี้และผ้าคลุมเก้าอี้ในงานอีเว้นต่างๆ

สำหรับท่านผู้ประกอบการรับทำอาหารโต๊ะจีนที่มาจากต่างจังหวัด แล้วมาจัดงานในจังหวัดลพบุรี อาจจะไม่สะดวกในการขนอุปกรณ์โต๊ะจีนที่ต้องใช้แรงงานและค่าขนส่งสูงมาก ในขณะที่การเช่าอุปกรณ์ของคนในพื้นที่จังหวัดลพบุรีจะทำให้ประหยัดต้นทุนค่าขนส่งและค่าแรงงานได้นะคะ

ถ้าผู้ประกอบการโต๊ะจีนรายใดต้องการซื้อภาชนะหรือเก้าอี้เพื่อประกอบใช้ในกิจการสามารถติดต่อกับดิฉันได้โดยตรงที่ คุณธนภรณ์ 08-19945507 เพราะดิฉันเป็นตัวแทนขายสินค้าของซุปเปอร์แวร์ด้วยเช่นกัน

ลองดูสินค้าตามลิ้งค์นี้นะค่ะ http://www.pantipmarket.com/mall/pasuperware ซึ่งมีบริการสกรีนบนภาชนะและเก้าอี้ด้วยค่ะ












งานวันแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์



ซุปเปอร์แวร์


จานชามที่ใช้บนโต๊ะจีนเป็นสินค้าจากซุปเปอร์แวร์ เมลามีนแท้ แตกยาก ปลอดภัยกับผู้บริโภคเพราะไม่มีสารตกค้างนะจ๊ะ














 

รับสกรีนงาน

ซื้อเพื่อบริจาควัด โรงเรียน โรงพยาบาล ใช้ในสำนักงานหรือใช้ในธุรกิจส่วนตัวก็ได้จ้า






 

ยังมีเก้าอี้สีเจ็บจี๊ดจ๊าดอีกนะจ๊ะ

 








 

 

 สนใจโทรสอบถามได้เลยจ้า ^^